วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

คณะครูและนักเรียนร่วมพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ

นายกฯ"อภิสิทธิ์" เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ในกิจกรรม "9 ในดวงใจ" เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 เวลา 09.09 น. ณ ตึกสันติไมตรี และเพื่อแสดงความจงรักภักดี รัก และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่กระทำการล่วงละเมิดพระบรมเดชานุภาพ คณะครูและนักเรียนโรงเรียนขามสะแกแสง จึงได้ประกอบพิธีโดยการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชาพร้อมกับทางกรุงเทพฯ ในวันและเวลาดังกล่าว
ความร่วมใจสมัครสมานสามัคคีในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อประกาศให้เป็นที่ประจักษ์ในพระบรมเดชานุภาพ และพระบรมกฤษฎีกาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ซึ่งได้ทรงแผ่พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎร์ในสยามรัฐสีมาอาณาจักร ให้ร่มเย็นผาสุกทั่วกัน พร้อมทั้งแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระวิริยอุตสาหะ ประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ทั้งยังทรงเอื้ออาทรในทุกข์สุขของปวงชนชาวไทย ตลอดจนประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านที่ประสบปัญหา

นับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 ตราบจนปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ เพื่อขจัดปัญหาในการดำรงชีวิตของทวยราษฎร์ และทรงเสริมสร้างความสุขร่มเย็น ความยั่งยืนมั่นคงแก่อาณาประชาราษฎร์ในทุกภูมิภาคของประเทศ ทรงพระวิริยอุตสาหะคิดค้นวิธีการต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาของชาติ เช่น ปัญหาเรื่องดิน น้ำ ปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการจราจร ปัญหาด้านพลังงานของชาติ และอื่น ๆ อีกมาก ทุกโครงการล้วนมุ่งขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม บางปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ก็ได้พระราชทานหลักการและทฤษฎีต่าง ๆ เพื่อนำไปปฏิบัติสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น “ทฤษฎีใหม่” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งปรากฎว่าในปัจจุบันผลของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ นั้น ล้วนสัมฤทธิผลเป็นรูปธรรม ทั้งชาวไร่ ชาวนา ชาวไทยภูเขา ที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ต่างประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีในสภาวการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า หลักการที่ทรงพระราชดำริหรือทรงประดิษฐ์คิดค้นขึ้นด้วยพระวิริยอุตสาหะและพระราชทานแก่พสกนิกรนั้น เป็นหลักการที่สามารถแก้ปัญหาได้จริง อำนวยประโยชน์อย่างยั่งยืนและเป็นคุณูปการ สามารถช่วยให้ประชาชนชาวไทยและประเทศไทยดำรงอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข แม้ว่าจะมีปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาร้ายแรงอื่น ๆ ก็สามารถคลี่คลายและขจัดลงได้”

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในนามของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขอถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย สรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพไททุกพิมานสถาน รวมทั้งพระมหากุศลที่ทรงบำเพ็ญเป็นเอกอดุลย์ โปรดอภิบาลบำรุงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเจริญสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย ทรงพระเกษมสุขทุกสมัย ทรงไพบูลย์ด้วยพระบุญญาธิการ ทรงเจริญพระชนมายุสิริสวัสดิ์ เสด็จดำรงในมไหสูรย์สมบัติสืบสถาวร พระเกียรติคุณเจิดจำรัสขจรจบภูมิภพไตร มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา ทรงแผ่พระบรมเดชานุภาพและพระบุญญาบารมีคุ้มเศียรเกล้า เหล่าพสกนิกรตราบจิรัฐิติกาล เทอญ



ที่มา
http://www.komchadluek.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น