

ช่วยเด็กกำพร้า ไร้ที่พึ่ง พ่อแม่ติดคุก...สู่อนาคตใหม่
จำรัส เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง
ผมเคยสัมภาษณ์พระครูศีลวราภรณ์ (เฉลิม ฐิติสีโล ) เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนเมือง ต.โนนเมือง อ.ขามสะแกแสงจ.นครราชสีมา ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จึงได้ทราบถึงภารกิจของท่านในการช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะท่านอุปการะเลี้ยงดูเด็กพร้า ไร้ที่พึ่ง ส่งเสียให้เรียนจนจบ มีงานมีการทำ
จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ ผมได้เดินทางไปนมัสการท่านที่วัดโนนเมือง อ.ขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ภาพที่ผมเห็นเมื่อไปถึง เห็นท่านคลุกคลีอยู่กับเด็กๆกำพร้า พ่อแม่ยากจน ไร้ที่พึ่ง กำลังให้เด็กๆรดน้ำขอพรจากพระผู้ใหญ่ในวัด ทราบภายหลังว่าเป็นยุทธวิธีอย่างหนึ่งให้เด็กซึมซับถึงการมีความสำนึกในบุญคุณและคุณูปการณ์ของผู้มีพระคุณ
วันนั้นได้นั่งพูดคุยกับท่านแบบเปิดใจ ที่ใกล้วัดท่านเปิดสอนโรงเรียนมัธยมพุทธเกษตร เด็กที่รับเข้ามาเรียนและอุปการะจะรับเฉพาะเด็กที่มีปัญหา ๕ ประเภท คือต้องเป็น เด็กกำพร้า เด็กที่พ่อแม่หย่าร้างหรือแยกทางกัน เด็กยากจน เด็กเกเรหลงผิดดื้อและเด็กพ่อแม่ติดคุก โดยเอามาเลี้ยงดูอยู่ประจำ ให้มีโอกาสเรียนหนังสืออบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีมีคุณธรรม มีคุณภาพพึ่งพาตัวเองได้ ทางวัดจะส่งเสริมเรียนจนจบปริญญาทุกคน
ผู้ที่จบออกมาแล้วก็มีการมีงานทำ เป็นที่ถูกใจของหน่วยงาน บริษัทห้างร้านต่างๆว่าเด็กทุกคนเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ ขยันและรับผิดชอบสูง เด็กเหล่านี้เมื่อมีเวลาก็จะกลับไปช่วยสอนรุ่นน้อง จุนเจือรุ่นน้อง บางคนเรียนทางธรรมก็ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดหลายแห่งก็มี
“เอ้าคุณจำรัส ลองดู” ท่านยื่นขวดขนาดขวดแบรนด์ยื่นให้พร้อมคะยั้นคะยอให้ดื่ม ผมรีบเปิดดื่มด้วยความอยากรู้
“โอ้โห้...ท่านอาจารย์รสชาติสุดยอดเลย” นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้กินวุ้นจากการหมักน้ำผลไม้ชีวภาพซึ่งผมรู้ว่ากว่าจะหมักน้ำผลไม้ชีวภาพให้เป็นวุ้นได้ต้องใช้เวลาหลายปี

ก่อนกลับพระครูศีลวราภรณ์ ท่านได้มอบหนังสือให้ผม ๒ เล่ม เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตามแนวทางของ ดร.รสสุคนธ์
ซึ่งก็มีประสบการณ์ของผู้ป่วยที่ปฏิบัติตามแนวทางนี้แล้วสุขภาพดีขึ้นจนน่าประหลาดใจ
สารอาหารบำบัดเฉพาะอาการ
•สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันสูงและต่ำ ไขมัน เบาหวาน เกาต์ ไตวาย ท่านแนะนำให้กิน.....ผักปั่น
•ไตอักเสบ นอนไม่หลับ เอส. แอล. อี. ไข้หวัด สมองฝ่อ ให้กิน..น้ำ + น้ำโหระพา +น้ำข้าว+น้ำลูกเดือย+เม็ดบัว
•กล้ามเนื้ออักเสบ อัมพาต ปวดท้องเมนต์ ให้กิน....เอนไซม์ผลไม้รวม
•ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ตับอักเสบ เจ็บหน้าอก กระเพาะอาหารอักเสบ ปวดเข่า ไมเกรน ปวดเอว ชา ให้กิน … น้ำ + น้ำโหระพา + น้ำผักปั่น
•ยาแก้ปวด ให้กิน .....น้ำ + น้ำโหระพา + น้ำข้าว + น้ำผักปั่น
•ยาแก้อักเสบ ให้กิน....น้ำผึ้ง ๑ ช้อน +กระเทียม ๕ กลีบ +พริกไทย ๕ เม็ด ตำหรือปั่น จิบๆ ๕ นาที
•บำรุงสมอง ให้กิน.....สมอ มะเฟือง มะยม ตะขบ ลูกยอ มะขาม มะขามป้อม
•ทดแทนการใช้มอร์ฟีน ให้กิน....กาแฟสุขภาพ ( ปลูกใต้ต้นไม้ใหญ่ เช่น กระท้อน ลิ้นจี่ มะม่วง )
•ฟื้นฟูกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ประสาท ให้กิน.....น้ำข้าวกล้อง + น้ำลูกเดือย + เม็ดบัว
•แก้พิษ ให้กิน...มะกรูด ๑ ลูก + ลูกมะนาว ๑ ลูก + น้ำผึ้ง ๑-๒ ช้อนโต๊ะ + น้ำเอนไซม์ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ
ปวดข้อ-ปวดเข่า-ขาลีบเดินไม่ได้
ในหนังสือยังมีประสบการณ์ผู้ป่วยปวดข้อเรื้อรังและโรคกระเพาะอาหารเป็นแผล ที่หันมารักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักและนมธัญพืช ตามแนวแพทย์ทางเลือกของ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงศ์ด้วย
คุณศิราณี เอกัคคตาจิต อยู่ที่บ้านธรรมรัตน์ ซอยธานี ๑๑ ถนนธานี ต.ในเมือง จ.บุริรัมย์ ภรรยา ของคุณหมอศิริพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุริรัมย์ เล่าว่า ลูกชายชื่อศักดา เอกัคคตาจิต สอบเข้าโควตาแพทย์ศิริราชได้ แต่มีปัญหาด้านสุขภาพ ยืนขาข้างเดียว เนื่องจากเจ็บที่ข้อเท้าและเข่ามาก ไปนอนโรงพยาบาลหมอให้ยาแก้ปวดแล้วดูอาการ ปรากฏว่าอาการกำเริบเจ็บขยายมาที่หัวไหล่ทั้ง ๒ ข้าง หมอวินิจฉัยว่าเข้าข่ายปวดข้อจูวีหน่ายรูมาตอย ค่อนข้างร้ายแรง ถ้าเป็นนานหลายปีก็จะพิการได้ วิธีรักษาป้องกันอาการเจ็บปวดก็มีแต่กินยาแก้ปวด แล้วลูกก็มีอาการเป็นแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วย จุกปวดกระเพาะอาหารขนาดหนักเพราะกินยาแก้ปวด กินยาเคลือบกระเพาะอาหารเต็มที่ก็ยังปวดอยู่ หมอรักษาก็บอกให้คุณแม่ทำใจ
ต่อมาก็ได้เจาะเลือด ค่า อี.เอส.อาร์อยู่ระหว่าง ๕๐-๙๐ มม./ชม. ซึ่งค่าปกติจะไม่เกิน ๒๐ มม./ชม. กินยาจนหูอื้อก็ไม่ดีขึ้น จึงไปอยู่กับหลวงพ่อที่วัดเขาน้อย เพื่อทำจิตใจให้สงบ ปรากฏว่าช่วงนี้ขาเริ่มลีบเพราะเจ็บข้อเท้าเดินไม่ได้ต้องนอนอยู่กับที่
อยู่มาวันหนึ่ง ดร.พรพรรณ และคุณแฉซึ่งเป็นญาติกับอาจารย์นิศา เชนะกุลได้มากราบหลวงพ่อที่วัดเขาน้อย พบเห็นลูกชายที่ป่วยอยู่จึงแนะนำให้กินน้ำนมธัญพืชและน้ำผักปั่น โดยกินน้ำนมธัญพืชก่อนอาหาร วันละ ๑ แก้ว และน้ำผักปั่นวันละ ๔-๕ แก้ว กินได้ ๒๐ วัน ก็ได้ไปเจาะเลือดดูปรากฏว่า ค่า อี.เอส.อาร์ลดลงเหลือ ๓๖ มม./ชม. ลูกชายก็ร้องออกมาว่าเขาคงรอดตายและหายได้ จึงมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น จึงกินน้ำนมธัญพืชและน้ำผักปั่นเพิ่มเป็น ๖-๗ แก้วทุกวัน นอกจากนั้นยังแช่น้ำร้อนสลับน้ำเย็นอย่างละ ๓ นาที เป็นการทำวารีบำบัดควบคู่ไปด้วย และนอนหัวค่ำ ๓ ทุ่ม ทำจิตใจให้เบิกบาน นั่งสมาธิ ทำได้ ๑ เดือน ไปเจาะเลือดผลปรากฏว่าค่า อี.เอส.อาร์ ลดลงเหลือ ๑๒ มม./ชม.เท่าคนปกติ
สุดท้ายได้ไปเจาะเลือดตรวจอีกครั้งก่อนไปเรียนต่อวัดค่าอี.เอส.อาร์ได้ ๑ มม./ชม. เม็ดเลือดแดงจาก ๓๓ % เป็น ๔๘ % เม็ดเลือดขาวจาก ๑๓,๕๐๐ ก็เหลือ ๖,๕๐๐ พอไปเรียนที่ศิริราชได้ ๕-๖ เดือนก็บริจาคเลือดได้ ญาติพี่น้องพ่อแม่แม้เพื่อนหมอด้วยกันก็รู้สึกเหมือนมีปาฏิหาริย์ ใครจะคาดคิดว่าจะหายจากโรคด้วยอาหารเหล่านี้
ถ้าใครสนใจอยากสอบถามข้อเท็จจริงหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมติดต่อคุณศิราณี คุณแม่ของคุณศักดา เอกัคคตาจิต ได้เธอยินดีให้ข้อแนะนำเป็นวิทยาทาน เพราะเธอเคยทุกข์ตรมเรื่องนี้มาแล้วรู้สึกเห็นใจผู้ป่วยรายอื่นๆที่ประสบเคราะห์กรรม
เหมือนเธอ ติดต่อได้ที่ ๐๔๔-๖๑๕-๐๔๐ , ๐๒-๓๙๔-๔๒๖๗
น้ำนมธัญพืช
มีธัญพืช ๓ ชนิด คือ เม็ดบัว ลูกเดือย ข้าวกล้อง อย่างละ ๑ ส่วน
วิธีทำ แช่เม็ดบัวและลูกเดือยในน้ำร้อน ประมาณ ๒ ชั่วโมง แล้วนำไปต้มจนสุกประมาณครึ่งชั่วโมง หุงข้าวกล้องจนสุกแล้วเอามาอย่างละ ๑ ขีด หรือ ๑๐๐ กรัม ปั่นจนเข้ากันแล้วใส่น้ำสะอาดต้มสุกพออุ่นพร้อมกัน จะได้นมธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหาร ดื่มได้เลย แต่มันจะจืด ถ้าใส่นมไวตามิลคนให้เข้ากันจะได้นมธัญพืชที่หวานตามจำนวนที่ใส่ตามต้องการ
น้ำผักปั่น
ผักที่นำมาปั่นประกอบด้วย ผักกาดหอม บำรุงกล้ามเนื้อกระดูก เส้นเอ็น และทำให้ปอดแข็งแรง คึ่นช่าย ช่วยลดการหมุนเวียนของโลหิตและหลอดเลือดให้แข็งแรง มะเขือเทศ บำรุงเม็ดเลือดให้แข็งแรง หอมใหญ่ ทำให้หัวใจแข็งแรง น้ำผึ้ง ให้พลังงานรวม หรือน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำอ้อยสด มะนาว ช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน แอปเปิ้ล หรือกล้วยน้ำว้า ชมพู่ สับประรด แตงโม ลูกท้อ แคนตาลูป และน้ำเปล่า
วิธีล้างผัก- ผลไม้ เอาน้ำส้มสายชู ๑ ช้อนโต๊ะต่อน้ำ ๑ ลิตร แช่ผักผลไม้ นาน ๔๕ นาที หลังจากนั้นล้างให้สะอาด
อัตราส่วนพืช-ผักที่นำมาปั่น
ผักกาดหอม ๒ ใบ คื่นฉ่าย ๒ ก้าน มะเขือเทศ ๑ ลูก หอมใหญ่ ๑/๔ ลูก น้ำผึ้ง ๒-๓ ช้อนโต๊ะ มะนาว ๑ ลูก
แอปเปิ้ล ๑ ลูก หรือกล้วยน้ำว้า ชมพู่ สับประรด แตงโม ลูกท้อ แคนตาลูป พอประมาณ คำนวณเท่าแอปเปิ้ล ๑ ลูก
และน้ำเปล่า ๒-๔ แก้ว
นำส่วนผสมทั้งหมดเข้าเครื่องปั่น ปั่นเสร็จให้กินได้เลย วันละ ๔-๕ แก้วยิ่งดี
พระอาจารย์เฉลิมกับงานส่งเสริมอาชีพชุมชน อาทิ การทำบล็อกประสาน และการทาสีลายไม้

"แต่ถ้ามีใครสนใจซื้อ หลวงพ่อก็ขายนะ" เคนบอก
ผู้ช่วยของเคนไม่ได้มีแค่ภรรยาเท่านั้นนะจะบอกให้ ในวันหยุดจะมีแรงงานพิเศษอีกหนึ่งแรงมาช่วย นั่นคือน้องเค้กหรือนางสาวมัตฑิชา พิทักษ์รัตน์ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเคน เด็กในความอุปการะของโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเองและยั่งยืนในพื้นที่ อ.ขามสะแกแสง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น